บริษัท Carbon Registry Thailand (CRT), ESG Planet และบริษัทกฎหมาย Wei Heng ร่วมจัดงาน Asia Investment Forum ภายใต้แนวคิด “ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)” นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย โดยเน้นการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตมาเลเซีย ประธานสำนักงานกฎหมาย Wei Heng และประธานหอการค้าไทย-จีน นอกจากนี้ยังดึงดูดนักลงทุน ผู้ประกอบการ ตลอดจนตัวแทนภาครัฐและภาคธุรกิจจำนวนมาก
ความมุ่งมั่นของงานที่มีต่อความเป็นกลางทางคาร์บอนและย้ำถึงความทุ่มเทของมาเลเซียต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2030
H.E. Datuk Jojie Samuel เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยกล่าวเปิดงานด้วยการชื่นชม
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ประธานคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ได้แสดงความขอบคุณและกล่าวชื่นชมผู้จัดงาน ที่ได้ตระหนักถึงการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของงาน ที่ไม่เพียงแต่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเสริมสร้างชื่อเสียงองค์กร และสร้างแบบอย่างที่ดีสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้รับการรับรองการทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอนจากการจัดงานจาก อบก. โดยได้ชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 43,000 kgCO2eq โดยใช้คาร์บอนเครดิตจากโครงการ T-VER
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการการแก้ไขปัญหาและการดำเนินการที่ชัดเจนในการจัดการกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้ทัศนถึงความก้าวหน้าของ CRT ในการพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจวัดคาร์บอนด้วยการสำรวจทางไกลผ่านดาวเทียมที่มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนวงการเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเพื่อปลดล็อกเศรษฐกิจสีเขียวของภูมิภาคอาเซียน ผ่านความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์เป็นกลไกสำคัญ อีกทั้งยังได้เชิญชวนให้นักลงทุนทั่วโลกและภูมิภาคเข้ามาสำรวจโอกาสที่มีอยู่มากมายในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการ
ฟอรั่มนี้ไม่ได้เป็นเพียงเวทีแสดงโอกาสการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเสวนา แลกเปลี่ยนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาครัฐและเอกชน นำเสนอถึงภาพรวมในมิติของเศรษฐกิจสีเขียวของภูมิภาคอาเซียน โดยเผยให้เห็นโอกาสการลงทุนที่สำคัญ ด้วยการคาดการณ์การลงทุนรวมถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 การไหลเข้าของการลงทุนสีเขียวในอาเซียนที่ถึง 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และรายได้ใหม่ที่เป็นไปได้ถึง 300 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030
“แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจและความจำเป็นด้านสิ่งแวดล้อมของการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ”
นอกจากนี้ อบก. ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการนำพาประเทศไทยสู่เศรษฐกิจที่มีการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ โดยให้คำมั่นว่าจะมีผลตอบแทนที่ยั่งยืนและเป็นมรดกในระยะยาวสำหรับคนรุ่นหลัง และหวังว่าการเสวนาที่มีคุณค่าจากฟอรั่มนี้จะสามารถเชื่อมโยงและเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน